คอร์สเรียน Taught programme กับ research programme ที่อังกฤษ ต่างกันยังไง
สวัสดีครับ วันนี้จะขอเล่าเรื่องรูปแบบคอร์สเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระ (รวมถึงที่มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ใน UK ด้วย) การเรียนปริญญาโทที่นี่จะมีรูปแบบการเรียน 2 แบบ คือหลักสูตรผ่านการสอน (taught programme) และหลักสูตรผ่านการวิจัย (research programme) ที่ถึงแม้ปลายทางจะได้ master degree เหมือนกัน แต่รูปแบบการศึกษาจะต่างกันโดยสิ้นเชิง จะต่างกันอย่างไร มาดูกัน
Taught programme
ตามชื่อเลย หลักสูตรนี้จะมีการเรียนการสอน มีการลงทะเบียนวิชาเรียนเหมือนตอนปริญญาตรี แต่รูปแบบการสอนจะต่างจากปริญญาตรีมากๆ ตรงที่จะไปเน้นที่การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ ครูผู้สอนมีหน้าที่สอนเนื้อหาในเบื้องต้นและผู้เรียนไปค้นคว้าต่อด้วยตัวเอง การเรียนจะแบ่งเป็นภาคการศึกษาชัดเจน โดยปีการศึกษาของที่มหาวิทยาลัยเอดินบะระจะแบ่งเป็น
- Term 1 เริ่มต้นกลางเดือนกันยายน จบที่ประมาณต้นเดือนธันวาคม
- Term 2 เริ่มต้นกลางเดือนมกราคม จบที่ประมาณปลายเดือนมีนาคม
- Term 3 เริ่มต้นกลางเดือนเมษายน จบที่ประมาณต้นเดือนกรกฏาคม
หลังจากจบการเรียนการสอนทั้ง 3 เทอมแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงทำ dissertation หรืองานวิจัยเพื่อจบการศึกษา ใช้เวลาทำวิจัยรวมถึงเขียนเล่มประมาณเกือบสองเดือน แล้วก็จะจบการศึกษาภายในสิ้นเดือนสิงหาคมหรือต้นเดือนกันยายน แล้วแต่เดดไลน์การส่ง dissertation ของแต่ละหลักสูตร การได้คะแนนจากคอร์สเรียนรูปแบบนี้จะมาจากการทำ assignments ต่าง ๆ และการสอบของแต่ละวิชาเป็นส่วนใหญ่ และคะแนนจาก dissertation จะมีน้ำหนักรองลงมา หลักสูตรแบบ taught programme นี้เป็นหลักสูตรที่นักเรียนไทยเลือกมาเรียนเป็นส่วนใหญ่ เพราะหลักสูตรยอดฮิตอย่างทางด้าน business และ law ล้วนแต่เป็นรูปแบบนี้ทั้งสิ้น เรียนจบแล้วจะได้ Master degree (MSc) ครับ
Research programme
หรือหลักสูตรผ่านการวิจัยนี้ จะแทบไม่มีการเรียนการสอนในคลาสเลย มีความหลากหลายของโครงสร้างหลักสูตรมาก ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วจะเริ่มต้นด้วยการสอนปรับพื้นฐานแค่ช่วงสั้น ๆ ประมาณสองหรือสามสัปดาห์ จากนั้นนักศึกษาก็เริ่มลุยทำงานวิจัยเลย ด้วยระยะเวลาที่สั้น นักศึกษาอาจจะได้รับลิสต์หัวข้อโปรเจคและชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาของแต่ละหัวข้อ จากนั้นนักศึกษาก็จะเลือกและทำงานวิจัยภายใต้การดูแลของอาจารย์ที่ปรึกษาและทีมวิจัยของอาจารย์ไปตลอดปี บางหลักสูตรก็ทำหนึ่งโปรเจค บางหลักสูตรก็สองโปรเจค ขึ้นอยู่กับหลักสูตร
การเรียนใน research programme นี้เป็นการปูพื้นฐานที่ดีมากไปสู่การเรียนต่อในระดับปริญญาเอก (PhD) เพราะโดยโครงสร้างหลักสูตรมันเหมือนเอา PhD มาย่อส่วนลงให้สามารถเรียนให้จบได้ใน 1 ปี เริ่มตั้งแต่การทำ literature review การเรียนรู้การใช้เครื่องมือวิจัย ระเบียบวิธีการวิจัยการสื่อสารแบบ academic ทั้งการพูดพรีเซ้นต์และการเขียนเล่ม thesis การให้คะแนนในหลักสูตรนี้จะมาจากการส่งเล่ม dissertation/thesis และการนำเสนอผลงานวิจัยของตัวเอง แทบไม่มีคะแนนจากการสอบข้อเขียนเลย หลักสูตรผ่านการวิจัยนี้มีในแทบทุก school แต่ว่าหลักสูตรยอดฮิตมักจะเป็นด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งมหาวิทยาลัยเอดินบะระมีศูนย์วิจัยด้านการแพทย์ที่เปิดหลักสูตรรูปแบบนี้อยู่หลายศูนย์ในหลากหลายสาขา เช่น Biomedical sciences ของ Queen’s Medical Research Institute และ Genetics and Molecular Medicine ของ The Institute of Genetics & Molecular Medicine เป็นต้น เรียนจบแล้วจะได้ Master degree by Research (MScR) ครับ
ถึงแม้รูปแบบการเรียนจะต่างกัน แต่ระหว่างทางหนึ่งปีในช่วงปริญญาโทก็เป็นปีที่ทั้งหนักและสนุกไปพร้อม ๆ กันทั้งสองแบบนะครับ คนเรียน Taught programme ก็จะได้สนุกสนานกับเพื่อน ๆ ในคลาส คนเรียน Research programme ถึงแม้เพื่อนร่วมคอร์สจะน้อยกว่าแต่ก็จะสนิทกัน และมักจะได้ไปนำเสนอผลงานที่งานสัมมนาหรือประชุมวิชาการที่ต่างเมือง ได้ประสบการณ์และได้ท่องเที่ยวไปในตัวด้วยครับ เพราะฉะนั้นจะเลือกเรียนอะไรรูปแบบไหน ก็อย่าลืมมองแผนอนาคตของตัวเองให้ดีและมีความมั่นใจไว้ครับ ทางมหาวิทยาลัยมีหน้าที่สนับสนุนเราให้ไปถึงดวงดาวอยู่แล้ว แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้ากับหลักสูตรยอดฮิตของนักเรียนไทยที่เอดินบะระครับ
ABOUT THE AUTHOR Apiwat Moolnangdeaw PhD student in Genetic & Molecular Medicine The University of Edinburgh
สำหรับน้องๆที่กำลังหาข้อมูลหรือสนใจเรียนต่อมหาวิทยาลัย Edinburgh สามารถสอบถามข้อมูลกับตัวแทนมหาวิทยาลัย Edinburgh อย่างเป็นทางการได้เลยที่ โทร. 02-129-3313, 085-144-8808 หรือ LINE: @Mangolearning