เรียนต่อโทด้าน Business ที่อังกฤษ ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
สำหรับน้อง ๆ ที่วางแผนเรียนต่อด้าน Business หรือถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกเรียนอย่างไร สามารถปรึกษาพี่ๆ Consult ของ Mango ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โทร : 02-1293313, 085-1448808 หรือ LINE: @mangolearning ได้เลย
เวลาที่น้องๆ จะเข้าเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษนั้น เราจะต้องเตรียมเอกสารเหล่านี้สำหรับทำการสมัครกับมหาวิทยาลัย ซึ่งเอกสารหลัก ๆ ที่ต้องเตรียมมีดังนี้
1. Official Transcript และ Graduation Certificate ฉบับภาษาอังกฤษ (แต่ละมหาวิทยาลัยอาจจะกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำที่แตกต่างกัน อย่าลืมตรวจสอบรายละเอียดให้ดี ๆ ก่อนสมัครนะ)
2. Application Form ใบสมัครและเอกสารประกอบการสมัครเรียน
3. Letters of Recommendation หนังสือรับรอง จดหมายแนะนำจากอาจารย์และหัวหน้าที่ทำงานฉบับภาษาอังกฤษ 2 ฉบับ
4. Resume หรือ CV
5. ผลสอบ IELTS
6. Statement of Purpose (SOP) หรือ Personal Statement จดหมายแนะนำตัว เขียนเพื่อแนะนำตัวเองว่าเราเป็นใคร เรียนจบอะไรมา ทำงานที่ไหน และทำไมมหาวิทยาลัยที่เราสมัครต้องเลือกรับเรา
7. สำเนาหนังสือเดินทาง (สำเนาหน้าพาสปอร์ต)
*สำหรับหลักสูตร MBA ในบางมหาวิทยาลัยจะต้องใช้คะแนน GMAT
สำหรับหลักสูตรยอดนิยมในสาขา Business มีดังต่อไปนี้
1) Business Analytics
หลักสูตรมาแรงแห่งยุคที่ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นสาขาที่เป็นที่ต้องการของทุกสายงาน เป็นการเรียนการจัดการข้อมูลการเรียนการจัดข้อมูล (Data Visualisation) และวิเคราะห์ข้อมูลหา insight เพื่อใช้ในการตัดสินใจหรือวางกลยุทธ์ทางธุรกิจในยุคปัจจุบันที่มีข้อมูลอยู่เป็นปริมาณมากและสามารถกลับมาทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Business and Data Analyst หรือ ฝ่าย Strategy หรือ Marketing ที่ต้องใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจ ซึ่งต้องบอกว่าหลักสูตรนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั่วโลก ทำให้หลักสูตรนี้มีการแข่งขันค่อนข้างสูงและในบางมหาวิทยาลัยจะเต็มหรือปิดรับสมัครเร็วกว่าหลักสูตรอื่นๆ
2) Economics
การศึกษาต่อในด้านของหลักสูตรเศรษฐศาสตร์ เน้นการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลจากตัวเลข นอกจากนั้นยังสอนการแก้ปัญหาด้านเศรษฐศาสตร์ในยุคปัจจุบัน รวมไปถึงการเรียนการสอนเกี่ยวกับการเงิน การเมือง สังคมวิทยา กฎหมาย และประวัติศาสตร์อีกด้วย
3) Finance
การเงินเป็นหนึ่งในหลักสูตรยอดนิยมเพราะเป็นพื้นฐานของการทำธุรกิจ สอนให้เข้าใจถึงหลักการ วิธีคิดและการตัดสินใจทางการเงินที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงการต่างๆ การบริหารความเสี่ยง หรือการบริหารสภาพคล่อง
4) Management
หลักสูตร Management คือหลักสูตรด้านการบริหารธุรกิจเน้นการบริหารจัดการที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างกลยุทธ์ การตลาด การเงิน การบริหารงานขาย การบริหารงานบุคคล เพื่อให้ผู้เรียน ได้เห็นภาพรวมในโลกของธุรกิจทั้งหมด และเตรียมการเป็นนักบริหารในอนาคต
5) MBA
หลักสูตร MBA จะเป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหารในอนาคต โดยผู้สมัครจะต้องมีประสบการณ์ทำงาน 3 ปีขึ้นไป โดยหลักสูตร MBA จะสอนรอบด้านของธุรกิจเหมือนกับหลักสูตรManagement และเน้นการพัฒนาด้าน soft skills ควบคู่ไปด้วย
6) Entrepreneurship
ส่วนหลักสูตร Entrepreneurship จะเน้นในแง่มุมของการสร้างธุรกิจ หรือการบริหารธุรกิจแนว Start-Up หรือ SME โดยเริ่มต้นจากการหาไอเดียในการสร้างธุรกิจ การหาแหล่งเงินทุน การบริหารธุรกิจ ไปจนถึง exit strategy โดยในบริษัท corporate รุ่นใหม่ในปัจจุบันก็มองหาทีมงานที่มีมุมมองและการทำงานแบบStart-Up เช่นกัน จึงไม่จำเป็นว่าหลักสูตรนี้จะต้องเรียนเพื่อไปเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น
7) Marketing
หลักสูตร Marketing จะเริ่มต้นที่การทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคไปจนถึงเครื่องมือทางการตลาด กลยุทธ์ทางการตลาด การสื่อสาร รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์ โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีวิชาเลือกที่แตกต่างกันไป
8) Digital Marketing
หลักสูตร Digital Marketing จะมุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดในโลกยุตดิจิตอล จะมีการสอนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์ และการทำการตลาดที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค บางมหาวิทยาลัยจะเน้นไปที่ด้าน creativeมากกว่า หรือในบางมหาวิทยาลัยจะเน้นไปที่ด้านการใช้เครื่องมือและวิเคราะห์ด้านเทคนิคเช่นweb analytics, facebook analytics, google analytics
หรือถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกเรียนอย่างไร สามารถปรึกษาพี่ๆ Consult ของ Mango ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น โทร : 02-1293313, 085-1448808 หรือ LINE: @mangolearning