ในการเรียนเพื่อให้ได้ specialized เป็น International Tax Law ที่ King’s College นั้น มีข้อบังคับว่าต้องลงวิชาที่เป็นวิชาเฉพาะของสาขา หรือลงวิชาเฉพาะของสาขารวมกับการทำ dissertation เรื่อง tax หรือลงวิชาเฉพาะรวมกับการทำ Practice Module ของสาขา tax ให้ได้ 120 credits จาก 180 credits ที่เป็นขั้นต่ำของการที่จะจบ Master Degree ซึ่งวิชาเฉพาะของสาขา tax ที่นี่มีให้เลือกเรียน 5 วิชา และแต่ละวิชาก็จะมี credits ไม่เท่ากัน โดยถ้าเป็นวิชาที่ต้องเรียนทั้ง 2 เทอม ก็จะมี 40 credits ซึ่งมีอยู่ 3 วิชาคือ International Tax Law, EU Tax Law และ Taxation of Business Enterprises ส่วนวิชาที่เรียนแค่เทอมเดียวจะมี 20 credits ได้แก่ Transfer Pricing ที่เรียนตอนเทอม 1 และ Value Added Tax ที่จะเรียนในเทอม 2 และการทำ dissertation จะมีให้เลือก 2 แบบ คือถ้าทำ 10,000 words จะมี 40 credits และถ้าทำ 15,000 words จะเป็น 60 credits ส่วน Practice Module จะมี 40 credits คือ International Tax Law: Transfer Pricing (Practice Module) ซึ่งถ้าเลือก Practice Module นี้จะต้องเรียนวิชา Transfer Pricing ในเทอม 1 ด้วย เมื่อรู้รายละเอียด credits แล้ว ในการเลือกเราก็ต้องเลือกให้ได้ตามที่กำหนดไว้สำหรับการเอา specialized เป็น International Tax Law ดังนั้นเราสามารถเลือกเรียนวิชาเฉพาะของสาขาให้ได้ขั้นต่ำ 120 credits แล้วเลือกทำ dissertation ในเรื่องที่ไม่ใช่ Tax หรือจะทำ Practice Module ก็ได้ แต่ถ้าเราไม่อยากลงแค่วิชาเฉพาะของสาขาให้ถึง 120 credits เราก็สามารถไปเลือกลงวิชาของสาขาอื่น หรือวิชาที่เป็น general ทั่วๆไปก็ได้ แต่เราจะต้องทำ dissertation ในหัวข้อที่เกี่ยวกับ Tax หรือจะทำ Practice Module ก็ได้ ขอแค่ที่เกี่ยวกับ Tax ต้องมี credits รวมกันได้ถึง 120 credits

ในเรื่องการเรียนการสอนนั้น จะเป็นการสอนแบบ lecture class ที่อาจารย์จะมีถามความเห็นบ้างเป็นบางครั้ง โดยส่วนมากในแต่ละวิชาอาจารย์จะอัพ slides ให้ในระบบของมหาวิทยาลัยที่เรียกว่า KEATS และก็จะอัพ Reading lists และ ให้ sources ของแต่ละอันที่ต้องอ่านให้ด้วย และอาจารย์ก็จะแนะนำหนังสือที่ควรอ่านไว้ให้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่อาจารย์สอนก็อยู่ในสิ่งที่ได้อัพไว้ให้อยู่แล้ว และสิ่งที่ต้องอ่านก็เป็นไปตาม lists พร้อมทั้ง sources ที่แปะมาให้เช่นกัน ทำให้ในบางวิชาไม่จำเป็นต้องซื้อหนังสือเลย และบางอย่างก็สามารถอ่านออนไลน์ได้เช่นกัน แต่ก็มีบางวิชาที่อาจารย์ไม่ทำแบบนี้ ก็จำเป็นต้องซื้อหนังสือเช่นกัน เช่นวิชา Taxation of Business Enterprises อาจารย์จะอัพแต่ slides กับ reading lists ให้แค่นี้ เลยต้องอ่านหนังสือช่วยทำความเข้าใจไปด้วย หนังสือที่แนะนำก็คือ Tiley’s Revenue Law ซึ่งหาซื้อได้ที่ร้านหนังสือใกล้หาวิทยาลัย และก็มีส่วนลดให้นักศึกษาด้วย แต่ถ้าไม่อยากซื้อก็สามารถไปอ่านได้ที่ห้องสมุดเช่นกัน นอกจาก lecture class แล้ว อาจารย์จะมีแบ่งเป็นกลุ่มย่อยๆ และนัดวันเวลาเรียนเพิ่ม เรียกว่า seminar class ให้เป็นการ discuss ในหัวข้อที่ให้ทำ essay ซึ่งก็มีทั้งแบบบรรยายและ case study และใน seminar class นี้อาจารย์ก็จะแนะนำการเขียนตอบเวลาสอบให้ด้วย สำหรับเราเลยคิดว่าการทำ essay ส่งเป็นเรื่องที่ควรทำแม้ว่าจะไม่มีผลต่อคะแนน และไม่มีการบังคับส่งก็ตาม แต่ถ้าเราส่งเราก็จะได้ความเห็นต่องานที่เราเขียนจากอาจารย์ซึ่งเราจะได้รู้จุดบกพร่องของตัวเองได้ง่ายขึ้น และเอาไปปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้การที่เราทำ essay ส่งก็ช่วยให้เราเรียน seminar class ได้ง่ายขึ้นและก็ยังสามารถที่จะ discuss ได้ด้วยเช่นกัน

ส่วนเรื่องการสอบนั้น ทุกวิชาในสาขา tax จะสอบตอนจบเทอม 2 แล้วในช่วงเดือนพฤษภาคม แม้ว่าจะเป็นวิชาที่เรียนเฉพาะเทอมก็ตาม และก็เป็นการสอบแบบ closed book 100 คะแนนด้วย ดังนั้นในการลงวิชาเรียนก็ควรตัดสินใจให้ดี และก็ต้องคอยทบทวนสิ่งที่เรียนอยู่เสมอเช่นกัน