5 เทคนิคอัพ Portfolio ให้สุดปัง !!
น้องๆที่ต้องการเตรียมตัวเรียนต่อสาย Art & Design การทำ Portfolio นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เข้าศึกษาต่อในสาขาที่เราสนใจ พี่แมงโก้มี 5 เทคนิคดีๆที่จะมาช่วยอัพ Portfolio ให้สุดปัง เข้าตากรรมการ มาดูกันดีกว่าว่ามีเทคนิคอะไรที่สามารถนำมาปรับใช้กับ Portfolio เราได้เลยน้า
Portfolio คืออะไร ?
(https://www.pexels.com/photo/portfolio-text-on-blue-background-14936124/)
Portfolio คือสิ่งที่เราแสดงผลงานของเราผ่าน ไอเดีย แนวคิด ตัวตน ซึ่งที่กล่าวมานี้ถือเป็น key สำคัญในการสมัครเรียน เพราะทางสถาบันจะพิจารณา Portfolio ร่วมกับ SOP ( Statement of Purpose ) เพื่อเสาะหานักศึกษาที่มีความตั้งใจ และเหมาะสมที่จะเรียนกับทางสถาบัน
1. Use wide range of mediums
การทำพอร์ทโฟลิโอ้นอกเหนือจากการแสดงตัวตนให้ชัดเจนแล้ว การแสดงฝีมือในเรื่องสกิลก็เป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นแล้วการทดลองใช้อุปกรณ์ในการวาดรูปหลายๆแบบ เพื่อ explore งานในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้ดินสอ ปากกา สีไม้ สีน้ำ เพื่อแสดงให้ทางมหาลัยเห็นว่าเรามีความตั้งใจที่จะทดลอง สไตล์ใหม่ๆ ออกจาก comfortzone ของตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น
เด็กสาย Fine Art ที่ลองใช้อุปกรณ์หลายๆแบบในการทำงาน ไม่ว่าจะงาน painting, drawing หรือ sculpting
(https://www.pexels.com/photo/hand-drawing-on-paper-sheets-15018975/)
หรือ น้องๆที่สมัครสาย Photoraphy ที่ลองถ่ายรูปหลายๆแนวไม่ว่า จะ Landscape, portrait หรือ Action shot.
(https://www.pexels.com/photo/white-and-black-picture-frame-4340919/)
สำหรับน้องๆที่อาจจะนึกไม่ออกว่าควรใช้เทคนิคไหนในการทำ portfolio บ้าง ทางพี่ๆแมงโก้ได้ลิสท์หัวข้อทีใช้ในการทำ portfolio เพื่อให้น้องๆใช้เป็นแนวทางได้เลยค่ะ
2. Show your working process
ทางสถาบันไม่ได้คาดหวังว่านักเรียนจะต้องใส่งานที่เสร็จแล้วมาอย่างเดียว แต่สิ่งที่สถาบันให้ความสนใจไม่ต่างจากสกิลเลยคือ กระบวนการทำงาน กระบวนการคิดงานตั้งแต่สเก็ตจนถึงชิ้นงานที่สำเร็จแล้ว
น้องๆมีการวางแผนอย่างไร ทำงานแบบไหน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะแสดงให้เห็นถึงสกิลในการแก้ปัญหา และการตัดสินใจ
อย่างเช่น ภาพสเก็ตนี้ สามารถแสดงให้เห็นได้เลยว่ากว่าจะได้คาร์แรคเตอร์ออกมา 1 ตัวนั้นผ่านการสเก็ตมานับไม่ถ้วนเลยค่ะ
[ Arts university Bournemouth student ]
3. Review your course outline
(https://www.pexels.com/photo/woman-in-white-long-sleeve-shirt-sitting-beside-woman-in-red-shirt-4778621/)
เวลาที่เราจะทำพอร์ทโฟลิโอ้เพื่อสมัครเรียน สิ่งนึงที่เราควรทำคือการรีวิวคอร์สที่เราสนใจ อ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิชา หรือ หลักสูตรเพื่อทำความเข้าใจว่า ทางสถาบันมีหลักสูตรแบบไหน สอนอะไร และเราจะได้รับอะไรไปจากคอร์สนี้
นอกจากนี้การใส่ข้อมูลที่เราได้รีเสิร์ชมาลงในพอร์ทก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะทางสถาบันอยากเห็นวิธีการค้นหาข้อมูลสำหรับการทำงาน โดยเราสามารถทำได้ดังนี้
Primary Research : เป็นรีเสิร์จที่เราเป็นคนลงมือทำเป็นคนแรก เช่นไปดูงาน Exhibition งานแฟชั่นโชว์ หรือ งานperformanceต่างๆ เราจด เราสเก็ตงานออกมา หรือ ที่เราลงมือทดลองเองก็เช่นกัน
Secondary research : เป็นรีเสิร์จที่เรารวบรวมข้อมูลต่างๆ จากหลายๆที่ เช่น นิตยสาร หรือ Documentary
Lateral research : เป็นการนำรีเสิร์จหลายๆ ที่มารวมกันเพื่อสร้างไอเดียใหม่ออกมา เช่น สมมุติว่าเราเรียน Photography เราอาจจะไปเสิร์จหาเทคนิคของ Fine Art มาช่วยทำให้งานภาพถ่ายของเรามันลึกมากขึ้น
Market research : เป็นการสำรวจสิ่งที่มีอยู่แล้วเคยทำออกมาแล้ว สำรวจว่าอะไรกำลังอยู่ในตลาด
การรีเสิร์จจะช่วยให้เราเข้าใจงานของเรามากยิ่งขึ้น และผลงานที่เราทำลงในพอร์ทก็จะแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
[ Arts university Bournemouth student ]
4. Show the real you
สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยคือการเป็นตัวของตัวเอง เช่น การแสดงศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และแพสชั่น โดยแสดงให้ทางมหาวิทยาลัยได้เห็นว่า เราชอบทำอะไร สไตล์งานที่ชอบทำ วิชาที่ชอบคืออะไร
ถ้าหากมีโปรเจ็คส่วนตัวยิ่งดี เพราะจะได้แสดงความเป็นตัวเองได้อย่างชัดเจนผ่านชิ้นงานของเรา สิ่งที่ย้ำเสมอ งานไม่สวย ไม่เพอร์เฟคไม่เป็นไร แต่ขอให้เป็นตัวเรามากที่สุดก็พอค่ะ
(https://unsplash.com/photos/0tAYWIGtYTo)
5. Select the exclusive projects
กรณีที่น้องๆผู้สมัครบางคนมีชิ้นงานที่เยอะมากๆ
ให้คัดเลือกชิ้นงานที่ดีที่สุดซัก 15-20 ชิ้น โดยการปรึกษาเพื่อน หรือ อาจารย์ เพราะการที่เราเอางานใส่ไปทีเดียวเป็น 100 ชิ้นอาจจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี
(https://www.pexels.com/photo/a-woman-making-a-drawing-on-a-sketchpad-4442028/)
นอกเหนือจากนี้การจัดวางชิ้นงานก็สำคัญไม่แพ้กันควรมีการแบ่งกลุ่มชัดเจน ว่าจะแบ่งงานตามกลุ่มไหน เช่น แบ่งตาม project, แบ่งตามชนิดของงาน หรือ แบ่งตามปีที่ทำ เป็นต้น
การเลือกจัดวางชิ้นงานก็สำคัญ สื่งที่อยากแนะนำเลยคือ การเลือกงานที่ดีที่สุดมาไว้เป็นชิ้นแรก เพื่อสร้างความน่าสนใจให้ทีมแอดมิดชั่นดูงานชิ้นต่อๆไปของเรา
(https://www.freepik.com/free-vector/flat-design-photobook-template_34921012.htm)
อย่าลืมเช็ค Portfolio Requirement ทุกครั้ง เพราะแต่ละสถาบันขอ portflio ไม่เหมือนกัน บางที่ขอเป็นไฟล์ .pdf บางที่ขอให้วาง URL อย่างเดียว บางที่ต้องทำคลิปวิดีโอแนะนำตัวเองเพิ่มติมเข้าไปด้วยค่ะ
ลองจินตนาการดูว่าเราคือผู้ชมเดินเข้าไปดูงานในแกลเลอรี่ งานในแกลเลอรี่มันดูง่ายไหม เข้าใจไหม แล้วงานมันบ่งบอกว่าเป็นตัวเองมากแค่ไหน
สำหรับน้องๆที่สนใจ สามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กับ portfolio ที่เราใช้ยื่นมหาลัยสาขาต่างๆได้เลยน้า ถ้าสนใจเรียนต่อสาย Art & Design ทางแมงโก้รับให้ปรึกษาไม่ว่าจะเรื่อง portfolio หรือ มหาลัยในอังกฤษก็ติดต่อพี่ๆแมงโก้มาได้เลยจ้า บริการฟรีทุกขั้นตอน
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อในประเทศอังกฤษ บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โทร. 02-129-3313, 085-144-8808 หรือ LINE: @Mangolearning