21 Facts About IELTS
มีใครเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ แล้วกำลังสับสนว่า IELTS คืออะไรยังไง สอบที่ไหนดี สอบยังไงบ้าง เตรียมตัว ค่าสอบ วันนี้พี่แมงโก้หาข้อมูลมาให้แล้วค่ะ รวบรวมไว้ที่นี่ 21 Facts about IELTS
IELTS คือการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ โดยวัดจากทักษะการใช้ภาษาทั้ง 4 คือ ฟัง (Listening) พูด (Speaking) อ่าน (Reading) และเขียน (Writing)
IELTS มี 2 แบบคือ IELTS แบบธรรมดา กับ IELTS for UKVI (Visa and Immigration) หรือพูดง่ายๆนั้นมีจุดประสงค์ในการใช้เพื่อประกอบการยื่นวีซ่าเข้าศึกษาต่อ และการตรวจเข้าเมืองสหราชอาณาจักร
ตัวข้อสอบนั้นเหมือนกันเลย แต่ในใบผลคะแนนสอบจะมีระบุว่า UKVI
สำหรับน้องๆที่จะไปเรียน+ต่อประเทศอังกฤษ ต้องสอบแบบ UKVI เท่านั้น เพราะว่ามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะ require IELTS UKVI ฉะนั้นไปสอบผิดตัวน้าาาาา
ค่าสมัครสอบIELTS UKVI ก็อยู่ที่ 8,300 บาท
ลักษณะการสอบจะมี 2 แบบคือ สอบแบบ Computer (Computer delivered) กับสอบแบบกระดาษ (Paper delivered) น้อง ๆ สามารถเลือกสอบแบบใดแบบหนึ่งก็ได้ ตามความถนัดของแต่ละคนเลย
การสอบไอเอลแบบคอมพิวเตอร์ กับแบบกระดาษจะแตกต่างกันที่วิธีการทำข้อสอบ 3 พาร์ท คือ Listening Reading และ Writing ที่จะเป็นการทำบนคอมพิวเตอร์ หรือเขียนตอบในกระดาษด้วยดินสอ ตามลักษณะการสอบที่น้อง ๆเลือก ส่วน Speaking Part ยังคงต้องสอบกับอาจารย์แบบตัวต่อตัวเหมือนเดิม
การสอบแบบ Computer น้อง ๆ จะได้นั่งสอบกับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง พร้อมมีพาทิชั่นหรือบล็อกกั้นกับคนที่นั่ง เหมือนเวลาไปกินราเม็งข้อสอบ โดยจะมีข้อสอบพาร์ท Listening, Reading และ Writing ขึ้นมาบนหน้าจอฝั่งซ้าย และฝั่งขวาเป็นฝั่งของคำถามและที่ให้น้อง ๆ พิมพ์คำตอบลงไป
ใครที่ถนัดพิมพ์ หรือพิมพ์เร็วกว่าเขียน ก็เลือกสอบ IELTS แบบ Computer ได้เลย เพราะทำข้อสอบ IELTS เราต้องแข่งกับเวลาอย่างมาก
ส่วนการสอบแบบกระดาษ ก็จะเป็นการเขียนคำตอบลงบนกระดาษโดยใช้ดินสอที่ทางศูนย์สอบเตรียมให้ และนั่งสอบในห้องใหญ่รวมกัน
ผลสอบของน้อง ๆ จะออกภายใน 2 อาทิตย์ หลังจากที่น้องๆทำข้อสอบทุกพาร์ทครบแล้วค่ะ
แต่ถ้าน้องๆคนไหนต้องการความช่วยเหลือพิเศษในการทำข้อสอบ(มีความผิดปกติด้านร่างกาย) น้องจะต้องสมัครสอบแบบกระดาษเท่านั้น
ข้อสอบใช้เวลาทั้งหมด 2 ชม. 40 นาที โดยไม่มีการพับเบรค สำหรับ 3 พาร์ท ยกเว้น Speaking ซึ่งน้อง ๆ สามารถเลือกได้ว่าจะสอบวันนั้นเลย หรือภายใน 1 อาทิตย์ก่อนหรือหลังการสอบ 3 พาร์ทที่เหลือ
เวลาที่ให้ทำข้อสอบในแต่ละพาร์ท คือ
– Listening 30 นาที
– Reading 60 นาที
– Writing 60 นาที
– Speaking 11 – 14 นาทีListening แบบคอมพิวเตอร์ จะต้องฟังด้วยและพิมพ์ไปด้วยค่ะ จะไม่มีเวลาเพิ่มให้เพื่อย้ายคำตอบที่เขียนมาในกระดาษคำตอบเหมือนระบบเดิม จึงอาจจะมีเวลาตอบคำตอบในพาร์ทนี้น้อยกว่าแบบเดิมเล็กน้อย
น้องๆ ต้องสมัครล่วงหน้า 2 สัปดาห์ก่อนสอบ แต่ถ้าใครเกิดติดธุระ ก็สามารถเลื่อนวันสอบได้ โดยต้องแจ้งก่อนล่วงหน้า และอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับสถาบันที่น้องๆสมัครสอบ
สามารถเลือกสอบได้กับ 2 สถาบัน คือ British Council และ IDP โดยจะสมัครออนไลน์หรือโทรไปสมัครก็ได้ค่ะ
British Council ตัวอย่างสนามสอบที่กรุงเทพฯ สามารถดูตารางสอบและสมัครสอบออนไลน์ได้ ที่นี่
– การสอบแบบกระดาษ สอบที่โรงแรมแลนด์มาร์ค (BTS นานา)
– การสอบแบบคอมพิวเตอร์ สอบที่ตึก Wave Place (BTS เพลินจิต)IDP ตัวอย่างสนามสอบที่กรุงเทพฯ สามารถดูตารางสอบและสมัครสอบออนไลน์ได้ ที่นี่
– การสอบแบบกระดาษ สอบที่โรงแรม Pullman G สีลม
– การสอบแบบคอมพิวเตอร์ สอบที่ศูนย์ IDP ตึก C.P. Tower (BTS ศาลาแดง)แล้ววันสอบอย่าลืมเตรียมบัตรประชาชน หรือ Passport และสำเนาบัตรประชาชน หรือ Passport
น้ำเปล่า 1 ขวด เป็นสิ่งเดียวที่อนุญาตให้นำติดตัวเข้าห้องสอบได้ แม้แต่นาฬิกาก็เอาเข้าไม่ได้นะจ๊ะ
เป็นยังไงคะกับ 21 Facts about IELTS ที่พี่แมงโก้รวบรวมมาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ แต่ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติม หรือกังวลว่าจะสมัครผิด พี่แมงโก้แนะนำให้โทรไปสมัครกับทางศูนย์โดยตรงดีกว่า เพื่อความมั่นใจว่าสอบไม่ผิดประเภทแน่ๆ ตามเบอร์โทรศัพท์ข้างล่างนี้เลยจ้า
British Council: 02-657-5678
IDP: 02-638-3111 ต่อ 111-112
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อในประเทศอังกฤษ บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โทร. 02-129-3313, 085-144-8808 หรือ LINE: @Mangolearning