รีวิว MSc in Reproductive Sciences ที่ Edinburgh
สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าเรื่องหลักสูตรที่ผมเรียนบ้าง ก็คือ MSc by Research in Reproductive Science ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มหลักสูตร Biomedical Sciences ของ Queen’s Medical Research Institute (QMRI) ในมหาวิทยาลัยเอดินบะระ ที่ประกอบไปด้วย MScR in Cardiovascular Sciences, Regenerative Medicine, Reproductive Sciences และ Biomedical Sciences (Life Science)
โครงสร้างของหลักสูตรกลุ่มนี้จะคล้าย ๆ กัน คือเรียนผ่านการทำงานวิจัยสองหัวข้อ หัวข้อละ 20 สัปดาห์โดยประมาณ ในช่วงสิ้นสุดแต่ละหัวข้อจะต้องเขียน dissertation รายงานผลของหัวข้อนั้นส่ง โดยคะแนนส่วนใหญ่ในหลักสูตรนี้จะมาจาก dissertations สองเล่มนี้ และคะแนนการนำเสนอผลงานในตอนท้าย ทั้งรูปแบบโปสเตอร์และการพูดนำเสนอ เรามาดูไทม์ไลน์การเรียนโดยละเอียดกันดีกว่า
ช่วงเริ่มต้นจะมีการสอนความรู้เบื้องต้นผ่าน seminars และการสอนเทคนิคทางแล็บวิทยาศาสตร์การแพทย์กว้าง ๆ ผ่านการทำแล็บจริง ระหว่างนั้นนักศึกษาจะได้รับรายชื่อหัวข้อวิจัยในสายของตัวเองชุดแรกพร้อมขอบข่ายงานวิจัยคร่าว ๆ (ถ้าเรียน Biomedical Sciences จะเลือกหัวข้อในสายไหนก็ได้) พอเลือกได้แล้วก็จะได้เริ่มทำโปรเจคแรกช่วงต้นเดือนตุลาคม และโปรเจคที่สองประมาณเดือนมีนาคม
Research projects
ปกติแล้วการทำวิจัยในระดับปริญญาโทในหลักสูตรนี้ เราจะมีที่ปรึกษาสองเลเวล เลเวลแรกคือ day-to-day supervisor หรือคนที่คอยดูแลเราโดยทั่วไปในแต่ละวัน ซึ่งมักจะเป็น PhD student, Post-doc หรือ research assistant แล้วแต่โปรเจคไป คนนี้จะเป็นคนที่ใกล้ชิดเราที่สุด คอยดูแล พูดคุย ตอบคำถาม และให้คำแนะนำทั่ว ๆ ไป ส่วนเลเวลสองคือ Principal Investigator (PI) หรืออาจารย์หัวหน้างานวิจัย ซึ่งจะคอยดูแลหัวข้อวิจัยแบบกว้างๆ และติดตามเราอยู่ห่าง ๆ แต่ถ้ามีคำถามหรือปัญหาอะไรลึกๆ ถามเค้าได้ ไทม์ไลน์การทำงานในทั้งสองโปรเจคจะคล้ายๆ กัน คือพอเราเลือกโปรเจคและอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจคตกลงรับเราเข้าไปทำแล้ว ก็จะเริ่มทำงานได้เลย แต่ช่วงต้นๆ มักจะเป็นการปรับตัวด้วยการอ่าน paper มากกว่า เพราะเราต้องเขียน project proposal ส่ง รวมถึงเดินเรื่องพวกงานเอกสารต่างๆ เช่น Health and safety เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะทำงานได้อย่างปลอดภัยตลอดโปรเจค บรรยากาศการทำงานเราว่ามันเหมือนเป็น mini PhD เลย เพราะต้องดูแลและกระตุ้นตัวเองในการทำวิจัย เก็บข้อมูล วิเคราะห์ผล ตีความผล นำเสนอผลกับในกลุ่มวิจัย การเขียนเล่ม dissertation ในระดับภาษาแบบ academic writing รวมถึงการเข้าร่วม meeting และ seminars ต่างๆ ภายในสถาบันวิจัยที่เราไปทำโปรเจคอยู่ ซึ่งทักษะทั้งหมดนั้นก็ได้เอามาใช้ในตอนเรียน PhD จริงๆ
Final presentation
เมื่อจบแต่ละโปรเจค เราจะต้องเขียน dissertation ส่ง หลังจากนั้นก็ต้องพรีเซ้นต์ผลงานตัวเอง เมื่อจบโปรเจคแรกจะต้องพรีเซ้นต์แบบโปสเตอร์ ส่วนโปรเจคที่สองต้องพูดพรีเซ้นต์ แน่นอนว่านอกจากจะเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ยังต้องใช้ภาษาในระดับวิชาการด้วย ท้าทายและตื่นเต้นมาก ๆ พอส่งทุกอย่างครบ คะแนนจะออกตามมาภายในสามสัปดาห์ เป็นอันจบหลักสูตร
เล่ากันซะยาวเลย เอาเป็นว่าหลักสูตรกลุ่ม Biomedical Sciences นี่เป็นหลักสูตรที่ดีมากสำหรับคนที่ตั้งใจจะมาสายวิจัยหรือตั้งใจจะเรียนต่อในระดับ PhD สายชีวการแพทย์ เพราะทุกอย่างมันปูพื้นฐานให้กับการเรียน PhD มากๆ อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำวิจัยพร้อม แล็บและเครื่องมือทันสมัย มีโอกาสได้ทำงานกับนักวิจัยระดับนานาชาติ เพื่อนในหลักสูตรมีไม่มาก แต่ก็มีจากหลากหลายประเทศ และรู้จักกันทั่วทั้งหลักสูตร มีกิจกรรมออกนอกสถานที่ที่จัดโดยหลักสูตรอีกต่างหาก ถ้าใครกำลังมองหลักสูตร Master by Research สายนี้อยู่ ก็อยากให้ลองรับเป็นตัวเลือกหนึ่งครับ
ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ ตอนต่อๆ ไปจะเล่าเรื่องสนุกๆ เบาสมองบ้างแล้วครับ
ABOUT THE AUTHOR
Apiwat Moolnangdeaw
PhD student in Genetic & Molecular Medicine
The University of Edinburgh
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อในประเทศอังกฤษ บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น โทร. 02-129-3313, 085-144-8808 หรือ LINE: @Mangolearning