ความแตกต่างระหว่าง Informal VS. Formal Language
Informal Language คือ ภาษาที่เรามักใช้ในการพูด หรือสื่อสารกันในที่ที่ไม่เป็นทางการ อย่างการคุยกันในกลุ่ม การโต้ตอบกันใน Social Network ต่างๆ ซึ่งคำนึงถึงการสื่อสารเป็นหลัก อาจจะสามารถใช้แกรมม่าผิด หรือคำศัพท์ได้บ้าง มีความลื่นไหลของภาษามากกว่า Formal Language คือ ภาษาที่เรามักใช้ในงานเขียน หรืองานพูดที่เป็นทางการมากๆ เช่น การกล่าวสุนทรพจน์ ให้ความสำคัญกับเนื้อหาสาระ และประเด็นที่ต้องการจะเขียนเป็นหลัก โดยจะต้องมีความถูกต้องของทั้งคำศัพท์และแกรมม่า และยังต้องมีความสละสลวยของการใช้ภาษา มีโครงสร้างประโยคที่ถูกต้องชัดเจน รวมไปถึงโครงสร้างของชิ้นงานที่ต้องมีการเกริ่นนำ เสนอประเด็นสำคัญ เขียนสนับสนุนประเด็นนั้นๆ ไปจนถึงการสรุปสิ่งที่อธิบายมาทั้งหมดอย่างชัดเจน สำหรับนักเรียนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษแบบเราๆ อาจจะคิดว่าภาษาพูดกับภาษาเขียนในภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่คล้ายๆกัน แค่จำศัพท์ได้ ใช้ศัพท์ให้หลากหลาย ใช้แกรมม่าให้ถูกก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว Written and Spoken English มีความแตกต่างกันพอสมควร เหมือนกับเวลาที่เราพูดภาษาไทย กับการเขียนเรียงความภาษาไทยก็มีข้อแตกต่างกันอย่างมาก เช่น เวลาใช้ภาษาพูด ทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรามักจะใช้คำที่ไม่เป็นทางการในการสื่อสารได้ เราสามารถอธิบายศัพท์ที่เราคิดไม่ออก โดยใช้การอธิบายยกตัวอย่างไปเรื่อยๆ รวมถึงการสร้างประโยค และการใช้แกรมม่าที่อาจจะมีจุดผิดได้ ซึ่งเหล่านี้พอเป็นงานเขียนแล้ว จะไม่สามารถทำได้…